การปลูกกระบองเพชร หรือ แคคตัส กลายเป็นเทรนด์ฮิตติดอันดับทำรายได้ในช่วงโควิด-19 โดย DHL Express เห็นโอกาสในการช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดต่างประเทศ ขณะที่กระบองเพชรกลายเป็นพืชที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ช่วงล็อกดาวน์ โดยการเปิดเส้นทางการบินตรงไปยัง 4 ประเทศ จากไทยถึงสิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา ส่งถึงภายในวันถัดไป และยังได้แชร์ประสบการณ์การส่งออกแคคตัสจากคุณ อธิวัธ จักรพันธ์ เจ้าของกิจการ Cactus Inter กับเส้นทางการประกอบอาชีพเพาะ ปลูกกระบองเพชรส่งออก ยังต่างประเทศ
รายงานผลการศึกษาจาก The Global Succulent & Cactus Plants Market Report 2021 เผยว่าตลาดกระบองเพชรและพืชอวบน้ำจะมีการเติบโตโดยรวมเฉลี่ย 16.8% ต่อปี เป็นระยะเวลากว่า 6 ปีนับจากนี้จนถึงปี 2027 โดยประเทศปลายทางทั้ง 4 ประเทศเอื้อในการทำการค้าระหว่างประเทศในช่วงการแพร่ระบาดซึ่งความนิยมในการปลูกต้นไม้และกระบองเพชรเพิ่มมากขึ้น ต้นกระบองเพชรหลายสายพันธุ์จะเติบโตเฉพาะพื้นที่ และมีแนวโน้มการเติบโตอย่างช้าๆ ซึ่งทำให้เป็นที่ต้องการในหมู่ผู้ชื่นชอบกระบองเพชร และนักสะสมที่สนใจพันธุ์ไม้หายากโดยเฉพาะ
เฮอร์เบิต วงษ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “สถานการณ์โรคระบาดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่อีคอมเมิร์ซไลฟ์สไตล์ บริการส่งกระบองเพชรไปต่างประเทศนี้จะทำให้ผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงกระบองเพชรสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสที่มีอยู่ทั่วโลก รวมถึงความเชี่ยวชาญในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศอย่างรวดเร็ว การบริการครั้งนี้ตอกย้ำถึงคำสัญญาของบริษัทที่ให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดมากที่สุด เรายังคงสร้างสรรค์บริการต่างๆ สำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีไทย และทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมโอเปอเรชันเพื่อสร้างวิธีการทำงานที่สอดคล้องกับข้อกำหนดในการขนส่งกระบองเพชรไปต่างประเทศ และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้มากที่สุด”
กระบองเพชรหรือแคคตัสเป็นพืชที่เติบโตได้ดีในโซนอากาศร้อน และอยู่รอดในสภาพอากาศอบอุ่นและแห้งแล้งตามเขตประเทศเมืองร้อน พืชชนิดนี้ไม่ต้องการการเอาใจใส่ดูแลมาก และต้องการการรดน้ำในระดับปานกลาง ธุรกิจกระบองเพชรเป็นหนึ่งในธุรกิจยอดฮิตช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และบางสายพันธุ์กลายเป็นต้นไม้หายากจึงเป็นที่ต้องการของตลาดและนักสะสม
แชร์ประสบการณ์จาก เจ้าของธุรกิจ Cactus Inter ปลูกกระบองเพชรส่งออก
อธิวัธ จักรพันธ์ เจ้าของธุรกิจ Cactus Inter ที่ปลูกกระบองเพชรส่งออกต่างประเทศ กล่าวว่า “การปลูกต้นไม้กลายเป็นกิจกรรมยอดฮิตช่วงล็อกดาวน์ ผมได้ปลูกต้นกระบองเพชรที่บ้านเป็นจำนวนมาก และนำไปสู่การเป็นผู้ประกอบการ ผมเริ่มทำธุรกิจส่งออกต้นกระบองเพชรเพราะเห็นการเติบโตของตลาด และผมเลือกใช้ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ในการขนส่งกระบองเพชรไปต่างประเทศ”
“แม้ต้นกระบองเพชรจะทนทานต่อความแห้งแล้ง และสามารถอยู่รอดได้โดยปราศจากดินเป็นระยะเวลานานร่วมเดือน แต่การแพ็คส่งต้นกระบองเพชรในสภาพอากาศที่ถ่ายเทไม่สะดวก (limited airflow) อาจทำให้ต้นกระบองเพชรตายเร็วขึ้น และส่งผลต่อคุณภาพของสินค้า ดังนั้นการเลือกผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์ที่ไว้ใจได้เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยสร้างความมั่นใจในการขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้าประจำ การที่ลูกค้าสามารถติดตามสถานะจัดส่ง ได้รับพัสดุที่สมบูรณ์ และตรงเวลานั้น นับเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ผมตั้งใจส่งมอบให้ลูกค้าเสมอ”
ปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นยอดการสั่งซื้อได้คือการตั้งชื่อแบรนด์ให้มีความอินเตอร์ ใช้ชื่อและโลโก้เป็นภาษาอังกฤษ จะช่วยให้ต่างชาติเข้าถึงแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
การส่งกระบองเพชรหรือแคคตัสจากประเทศไทยไปประเทศสิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา กับดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ต้องใช้เอกสารเพื่อขออนุญาตในการทำเรื่องขอส่งออก ได้แก่ ใบอนุญาตส่งออกไซเตส (CITES: อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์) และ ใบรับรองปลอดศัตรูพืช (Phytosanitary Certification) เพื่อรับรองว่าสินค้าที่ส่งออกปลอดศัตรูพืช และเป็นไปตามเงื่อนไขของประเทศปลายทาง โดยผู้รับปลายทางต้องติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนสินค้าจะถูกจัดส่งเพื่อเตรียมเอกสารการนำเข้าสินค้าซึ่งแตกต่างกันในแต่ละประเทศปลายทาง และให้สามารถจัดส่งถึงมือผู้รับได้ในวันถัดไป (ไม่รวมระยะเวลาตรวจสอบสินค้าตามกระบวนการศุลกากรและการเดินพิธีศุลกากร)
หากใครสนใจบริการส่งกระบองเพชร หรือแคคตัส จากไทยไปสิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนามและกัมพูชากับดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ลองสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทางบริษัทได้เลย