บทความนี้มีประโยชน์มากสำหรับการ เริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง มันอาจจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย และน่าตื่นเต้นที่สุดในการทำธุรกิจส่วนตัว ตอนที่คุณเริ่มต้นคุณอาจจะจินตนาการไว้ว่า ถ้าฉันมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ฉันจะสบาย และธุรกิจของฉันจะต้องเติบโต มั่นคงแน่นอน แต่หลายคนลืมคิดถึง ความเสี่ยงที่จะตามมา ว่าตัวจะเองรับมันได้หรือเปล่า ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนมักจะ ทำธุรกิจควบคู่งานประจำ ก่อนตัดสินใจออกจากงานมาเพื่อทำธุรกิจของตัวเอง เพราะคิดว่า “มันถึงเวลาแล้ว” อิ่มตัวกับการเป็นลูกน้องแล้ว และหนึ่งในปัจจัยหลักของการเริ่มต้นธุรกิจก็คือ “เงินลงทุน” เพราะกว่าจะทำให้เป็นรูปเป็นร่างได้ คุณอาจจะขาดรายได้ไปช่วงหนึ่ง.. แต่เงินไม่ใช่สาเหตุที่จะขัดขวางธุรกิจในฝันของคุณ และเงินไม่ใช่ทุกอย่างในการเริ่มทำธุรกิจ แน่นอนว่าธุรกิจจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่มีเงินลงทุนแม้แต่บาทเดียว ดังนั้นการ เริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว ยังไงต้องมีเงินลงทุนครั้งแรก (หรือลงแรงฟรีๆ ซึ่งนั่นก็หมายถึงการลงทุน เพราะคุณเลือกที่จะใช้เวลากับสิ่งที่ยังไม่ทำเงิน แทนที่จะใช้เวลานั้นไปทำงานที่สร้างรายได้) แต่การใช้เงินลงทุนเท่าไหร่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับธุรกิจที่เราวางไว้ด้วย เพราะแต่ละธุรกิจก็จะมีความต้องการทางการเงินที่แตกต่างกัน ซึ่งถ้าคุณสามารถประเมินได้ตั้งแต่เริ่มต้นคิดทำธุรกิจว่าจะต้องใช้เงินไปกับอะไรบ้าง คุณก็จะลงทุนกับส่วนประกอบต่างๆ ของบริษัท ได้อย่างราบรื่น ลองมาดูตัวอย่างกันว่าจะ เริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ มันต้องมีการใช้เงินไปกับส่วนไหนบ้าง อุปกรณ์ทั้งหมด ที่จะต้องใช้ดำเนินการธุรกิจ เช่น คอมพิวเตอร์ โต๊ะ เก้าอี้ สมมุติคุณจะทำธุรกิจโรงพิมพ์ ก็ต้องมีเครื่องจักรสำหรับงานพิมพ์ คุณต้องประเมินว่า จะใช้เครื่องจักรจำนวนกี่เครื่อง ในปริมาณที่เหมาะกับบริษัท และเหมาะกับประเภทงานที่คุณรับทำ เป็นต้น […]
ทำธุรกิจกับเพื่อน
เมื่อถึงเวลาที่เราจะเริ่มธุรกิจกับหุ้นส่วน อาจจะเป็นเพื่อน หรือคนรู้จัก มันก็จะมีแอบคิดกันหน่อยแหละว่าจะไปด้วยกันรอดหรือเปล่า แต่แปลก.. ถึงแม้จะรู้สึกแบบนี้ หลายคนก็จะปล่อยความคิดนี้ผ่านไป และสนใจแค่ว่า ทำยังไงก็ได้ให้ธุรกิจมันเริ่มก่อนได้ก็พอ ปัญหาส่วนใหญ่มันจะเริ่มมาตอนที่ธุรกิจกำลังเข้าที่ และทำเงินได้ ซึ่งปัญหาต่างๆ จะเกิดจากการที่หุ้นส่วนไม่ได้คุยกันให้เคลียตั้งแต่ตอนเริ่มธุรกิจ อาจทำให้เกิดการทะเลาะกัน การไม่เข้าใจกัน และเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดคือการที่หุ้นส่วนแต่ละคนเดินไปกันคนละทาง หากไม่เคลีย 3 เรื่องนี้ก่อนเริ่มธุรกิจกับหุ้นส่วน มีโอกาสสูงมากที่ธุรกิจจะไปไม่รอด 3 เรื่องที่ต้องเคลียกับหุ้นส่วนก่อนทำธุรกิจ 1. สัดส่วนการถือหุ้นของ หุ้นส่วน ตอนเริ่มจดทะเบียนบริษัท ผู้ร่วมก่อตั้งก็จำเป็นต้องแบ่งสัดส่วนหุ้น ซึ่งหลายๆ คนที่เป็นเพื่อกัน ก็มักจะหารตามจำนวนผู้ถือหุ้นเลย เช่น ทำ 3 คน ก็คนละ 33.33% ซึ่งการแบ่งแบบนี้ส่วนใหญ่จะมีปัญหาตามาทีหลัง (เช่นคนนึงทำงานหนักกว่าอีกคน แต่ได้หุ้นเท่ากัน) การแบ่งสัดส่วนหุ้นควรแบ่งตามหน้าที่ ความรับผิดชอบ และความทุ่มเทให้กับบริษัท ผู้ที่เสียสละและทุ่มเทให้กับบริษัทมากกว่า สมควรได้จำนวนหุ้นที่สูงกว่า ซึ่งผู้ถือหุ่นทุกคนควรแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้ชัดเจน เช่น คนนี้ดูเรื่องการตลาด (CMO) อีกคนดูเรื่องการเงิน (CFO) อีกคนเป็น CEO เพราะหากไม่แบ่งหน้าที่ให้ชัดตั้งแต่ต้น ต่อไปมะนจะเริ่มตีกันมั่วจนไม่รู้ว่าใครควรทำอะไร 2. […]