เครื่องมือทางการตลาดที่นักการตลาดควรต้องรู้จักเพราะ STP Marketing จะมาค่อยช่วยแบ่งส่วนตลาดกำหนดกลุ่มเป้าหมายและวางตำแหน่งทางการตลาดให้กับธุรกิจ เหมาะสำหรับเริ่มต้นธุรกิจหรือธุรกิจที่กำลังพัฒนา
STP Marketing คืออะไร
การวางกลยุทธ์การแบ่งส่วนตลาด กำหนดกลุ่มเป้าหมาย และ วางตำแหน่งทางการตลาดเพื่อให้เหมาะสมกับธุรกิจและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
STP Marketing มีอะไรบ้าง แบ่งออกเป็น 3 ส่วนดังนี้
- Segmentation (การแบ่งส่วนตลาด): คือการที่แบ่งกลุ่มตลาดออกเป็นกลุ่ม ๆ ตามลักษณะหรือพฤติกรรมของลูกค้าเพื่อทำให้เข้าใจความต้อง
การและตอบสนองลูกค้าของแต่ละกลุ่มได้ดีขึ้น
โดยหลักเกณฑ์ที่จะใช้ในการแบ่งส่วนการตลาดจะมีด้วยกันทั้งหมด 4 ข้อ ได้แก่
- การแบ่งส่วนตลาดโดยการแบ่งกลุ่มตามข้อมูลประชากร (Demographics Segmentation ): เช่น อายุ เพศ อาชีพ รายได้ สถานะครอบครัว สัญชาติ ศาสนา
- การแบ่งส่วนตลาดโดยการแบ่งกลุ่มพฤติกรรมของผู้บริโภค (Behavioral Segmentation): อย่างเช่น พฤติกรรมการซื้อ
- การแบ่งกลุ่มตามหลักจิตวิทยา (Psychographic Segmentation): รูปแบบการดำเนินชีวิต ความชอบ ความสนใจ ไลฟ์ไตล์
- การแบ่งกลุ่มตามหลักภูมิศาสตร์ (Geographic Segmentation): สภาพภูมิอากาศ ประเทศ เมือง จังหวัด
- Targeting (การเลือกกลุ่มเป้าหมาย): หลังจากผ่านการแบ่งส่วนตลาดเรียบร้อยจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มที่มีโอกาสสูงที่สุดที่จะเลือกซื้อสินค้าและบริการของเรา
- Undifferentiated Marketing (การตลาดแบบไม่แยกกลุ่ม): ใช้กลยุทธ์เดียวในการนำเสนอสินค้าหรือบริการให้กับทุกกลุ่ม โดยไม่สนใจความแตกต่างระหว่างกลุ่มต่างๆ
- Differentiated Marketing (การตลาดที่มีการแยกกลุ่ม): การออกแบบแคมเปญหรือสินค้าให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
- Concentrated Marketing (การตลาดมุ่งเน้น): การเลือกกลุ่มเป้าหมายกลุ่มหนึ่งหรือกลุ่มเล็กๆ และมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการของกลุ่มนั้นโดยเฉพาะ
- Micromarketing (การตลาดเฉพาะกลุ่มย่อย): การเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีความเฉพาะเจาะจงมากที่สุด เช่น การตลาดในระดับบุคคล (one-to-one marketing) หรือการตลาดในระดับชุมชน (local marketing)
- Positioning (การวางตำแหน่งทางการตลาด): การวางตำแหน่งหรือสร้างภาพลักษณ์ให้ลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าและบริการของเรามีข้อดีอะไรและแตกต่างจากคู่แข่งในด้านไหนบ้าง อย่างเช่น ด้านคุณภาพ ด้านราคา ด้านคุณด่าหรือประโยชน์ใช้สอย พยายามดึงจุดเด่นของสินค้าและบริการออกมาให้ลูกค้าได้รับรู้
ตัวอย่างการวิเคราะห์ STP Marketing ยกตัวอย่าง ธุรกิจน้ำผลไม้
- Segmentation (การแบ่งส่วนตลาด)
- แบ่งตามหลักประชากรศาสตร์
- เด็กและวัยรุ่น (6-18 ปี): ต้องการน้ำผลไม้ที่รสหวาน สีสันสดใส
- วัยทำงาน (25-40 ปี): มองหาน้ำผลไม้ที่มีประโยชน์และช่วยเพิ่มพลังงาน
- ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป): ต้องการน้ำผลไม้ที่มีคุณสมบัติช่วยเสริมสุขภาพ
- แบ่งตามหลักภูมิศาสตร์
- เมืองใหญ่: ต้องการน้ำผลไม้ที่สะดวกและพร้อมดื่ม
- ชนบท: มักชอบน้ำผลไม้ที่สดใหม่ ไม่มีสารเคมีหรือสารกันบูด
- แบ่งตามพฤติกรรมผู้บริโภค
- คนรักสุขภาพ: ชอบน้ำผลไม้ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติและไม่มีน้ำตาล
- คนที่ชอบรสชาติหวาน: มองหาน้ำผลไม้ที่รสหวานและดื่มง่าย
- แบ่งตามหลักประชากรศาสตร์
- Targeting (การเลือกกลุ่มเป้าหมาย)
- เลือกกลุ่ม วัยทำงาน (25-40 ปี)ที่ต้องการน้ำผลไม้ที่ทั้งสะดวกและดีต่อสุขภาพ พร้อมทั้ง คนรักสุขภาพ ที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าทางโภชนาการและความเป็นธรรมชาติของน้ำผลไม้ เช่น น้ำผลไม้ 100% ไม่มีสารเติมแต่ง
- Positioning (การสร้างตำแหน่งในตลาด)
- “น้ำผลไม้ธรรมชาติ 100% ช่วยเสริมสุขภาพและพลังงาน”การวางตำแหน่งนี้จะเน้นที่การให้คุณค่าทางโภชนาการและการรักษาสุขภาพ โดยไม่ใช้สารกันบูดหรือสารเคมี เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสุขภาพและต้องการผลิตภัณฑ์ที่สะอาดและมีประโยชน์
STP Marketing มีประโยชน์กับธุรกิจยังไง
- เข้าใจความต้องการและตอบสนองลูกค้าได้ตรงจุดมากขึ้น: ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการ พฤติกรรม และปัญหาของลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
- โฟกัสที่กลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง: ทำให้ธุรกิจสามารถเลือกลงทุนในกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสปิดการขายสูง ลดต้นทุนในการทำตลาด
- เพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารการตลาด: สามารถปรับเนื้อหา โปรโมชั่น และแคมเปญให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
- สร้างความแตกต่างและจุดยืนของแบรนด์: ทำให้แบรนด์มีเอกลักษณ์และแตกต่างจากคู่แข่งลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
- เพิ่มโอกาสในการปิดการขายและสร้างความภักดีของลูกค้า: เมื่อลูกค้ารู้สึกว่าสินค้าหรือบริการตอบโจทย์ตรงจุด จะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างลูกค้าประจำได้ง่ายขึ้น
ดังนั้น STP Marketing จึงมีความสำคัญ เพราะช่วยให้ธุรกิจเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน วางแผนกลยุทธ์และพัฒนาสินค้าหรือบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ทำให้ธุรกิจมีภาพลักษณ์ที่โดดเด่นและเป็นที่จดจำของผู้บริโภค โดยสรุปเห็นได้ชัดว่าการวางแผนธุรกิจให้ดีส่งผลต่อธุรกิจมากมายเลยทีเดียว ในบทความที่แล้วได้มีการพูดถึงการวางแผนธุรกิจคืออะไร ความสำคัญ และขั้นตอนการเขียนในส่วนแผนธุรกิจ หากอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการวางแผนธุรกิจสามารถตามไปอ่านกันได้เลย