ดูจากหัวข้อเรื่องแล้วตลกดีหรือเปล่า ใครจะทำธุรกิจตัวเองเหมือนทำงานอดิเรก แปลกแต่จริง! เมื่อมีคนทำธุรกิจเหมือนเป็นงานอดิเรกอยู่
ในกรณีนี้ไม่เหมือนการที่เราเอางานอดิเรกมาทำเป็นธุรกิจนะครับ (ถ้าแบบนี้เป็นสิ่งที่ดี) แต่กรณีนี้คือ ทำธุรกิจแบบไม่จริงจัง ทำเหมือนมันเป็นแค่งานอดิเรก ซึ่งคำว่าทำเป็นงานอดิเรก ไม่ได้หมายความว่า การที่คุณใช้เวลาน้อยในการทำธุรกิจ ถือว่าเป็นการไม่ใส่ใจ การใช้เวลาน้อยในการทำ อาจแปลว่าคุณสามารถใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ได้ แต่การทำธุรกิจเหมือนเป็นงานอดิเรกคือ ทำไปวันๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร ไม่ได้คิดว่าจะให้โตอย่างไร ให้มีเงินไหลเข้ามาเรื่อยๆ ก็ถืว่าโอเค
ส่วนใหญ่ปัญหานี้เกิดกับเจ้าของธุรกิจ ที่เริ่มทำ 2-3 เดือน แล้วก็รู้สึกว่าประสบความสำเร็จเลย บริษัทมีกำไรเลย ลูกค้าเข้าเลย อาจจะเพราะความบังเอิญ หรือจากพื้นฐานเครือข่ายคนรู้จักที่มีอยู่เป็นต้นทุน หรืออาจจะมาจากการที่ทำบัญชีไม่ชัดเจนพอ ไม่ได้ลงรายจ่ายครบถ้วน ทำให้เค้าเหล่านั้นรู้สึกว่าการทำธุรกิจมันช่างง่ายดาย เงินช่างหาง่ายเหลือเกิน และไม่ค่อยทุ่มเทกับธุรกิจอย่างจริงจัง ไม่คิดและวางแผนในตัวธุรกิจระยะยาว ใช้เวลาไปกับการใช้เงิน และทำธุรกิจเหมือนเป็นงานอดิเรก โทรหาลูกค้าบ้างเล็กน้อย แล้วก็ออกไปใช้เงินต่อ
สาเหตุที่ทำให้เจ้าของธุรกิจที่ทำธุรกิจเล่น ไม่ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้างมาลองดูกัน
ไม่แยกกระเป๋าเงินส่วนตัวกับบริษัท
การจะสร้างบริษัทที่แข็งแรง คุณต้องมั่นใจว่าในบริษัทมีทรัพย์สินหรือเงินสดพอสำหรับการดำเนินธุรกิจ และลงทุนเพื่อขยายกิจการในอนาคต แต่สำหรับธุรกิจเล็กๆ ที่เพิ่งเปิดใหม่ ไม่ค่อยใส่ใจกับระบบบัญชี เงินที่ได้มาจากการทำธุรกิจก็เอามาใช้ส่วนตัว เนื่องจากตัวเองเป็นเจ้าของคนเดียวบ้าง หรือทำกับเพื่อนสนิทบ้าง จนแยกไม่ออกว่าสุดท้ายแล้ว บริษัทกำไร หรือขาดทุนไปเท่าไหร่กันแน่
ธุรกิจจะไม่เป็นธุรกิจจนกว่าคุณจะเริ่มทำกำไร ซึ่งหากคุณไม่แยกกระเป๋าให้ดีแล้วจะรู้ได้ไงว่าตอนนี้มันกำไรหรือเปล่า แล้วสิ่งที่ทำ มันคือธุรกิจจริงๆ หรือเปล่า?
ไม่วางแผนอนาคตของธุรกิจ
ด้วยความที่ธุรกิจมันเริ่มมาง่าย ทำเงินได้ง่ายๆ หลายคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ก็จะเริ่มไม่ค่อยสนใจอนาคตเท่าไหร่ (ซึ่งจริงๆ ถ้าคุณเอาจริงเอาจัง การที่ธุรกิจประสบความสำเร็จเร็ว หรือหากคุณมีพื้นฐานเครือข่ายคนรู้จักอยู่แล้ว จะช่วยให้คุณยิ่งประสบความสำเร็วมากขึ้นไปอีก)
คนที่ไม่ใสาใจก็จะใช้ชีวิตไปวันๆ เพราะเงินหาง่าย ไม่คิดว่าหากสักวันหนึ่งลูกค้าหาย หรือ มีปัญหากับ Supplier แล้วจะทำยังไงต่อ ไม่เคยวางแผนสำรองว่าจะต้องหา Supplier เพิ่ม หรือเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ เพราะคิดว่าจะใช้ประโยชน์จากเครือข่าย หรือ Connection อย่างเดียว
หากเริ่มมา 1-3 เดือนแล้วธุรกิจสามารถทำกำไรได้ นั่นเป็นสิ่งที่ดี คุณควรใช้เวลาที่มีคิดต่อยอด วางแผนสำหรับอนาคต เช่น อีก 6 เดือนอยากเห็นธุรกิจตัวเองไปในทิศทางไหน? อีก 1 ปี จะต้องมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นกับบริษัทคุณบ้าง?
ขี้เกียจและไม่มี Passion
คนขยันและมีความรับผิดชอบคงไม่มีใครทำธุรกิจเหมือนทำงานอดิเรกหรอก โดยเฉพาะคนที่มี Passion ในธุรกิจนั้นๆ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ทำงานอาทิตย์ละ 7 วัน ไม่ได้หมายความว่าเค้าต้องนั่งหน้าเครียดตลอดเวลา แต่หมายความว่า เค้าจะสนุกกับธุรกิจ คอยคิดถึงสิ่งต่างๆ และตื่นเต้นไปกันมัน คิดที่จะแก้ปัญหา คิดพัฒนา เปิดหาโอกาสใหม่ๆ
เราไม่ได้บอกให้คุณ Work Hard แต่อยากให้คุณ Work Smart คือใช้เวลาที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใช้ไปกับเรื่องที่มันมี Impact กับธุรกิจ และเลี่ยงที่จะใช้เวลาไปกับงานที่มันไม่ได้สร้างคุณค่าให้คุณ หรือบริษัท
#CEOHomework
ก่อนอื่นเลย เช็คก่อนว่าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ หรือเข้าข่ายไหม.. หากมี สิ่งที่ต้องทำคือ
1. วางเป้าหมายว่า 6 เดือนต้องให้ธุรกิจไปถึงจุดไหน อีก 5 ปี อยากเห็นธุรกิจตนเองเป็นอย่างไร
2. เริ่มทำงานแบบ Full Time อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง หากว่าง ก็ให้เริ่มแพลนธุรกิจในอนาคต ศึกษาคู่แข่ง หรือเพิ่มคุณค่าในด้านต่างๆ ให้ธุรกิจของคุณ
3. จัดการระบบบัญชีให้ดี แยกกระเป๋าบริษัทและกระเป๋าส่วนตัวให้ชัดเจน อย่าเอาเงินบริษัทมาใช้ส่วนตัวเป็นอันขาด
Image Designed by Freepik