Facebook ไม่ควรเป็นช่องทางเดียวที่ใช้ทำธุรกิจ.. ใครที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจโดยทำการตลาดบน Facebook หรือถึงแม้จะเป็นมือเก๋าแล้วก็ตาม คงจะต้องเคยเจอปัญหา Facebook ถูกระงับการใช้งาน ถูกบล็อก ถูกแบน กันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะโดนแบบ ชั่วคราว หรือถาวร โดยปัญหาส่วนใหญ่มาจากการที่ไม่เข้าใจหลักในการใช้งาน การทำงาน และนโยบายในการใช้งานของ Facebook ซึ่งเป็นสิ่งที่ป้องกันได้
หากคุณเข้ามาอ่านบทความนี้ ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยเจอปัญหาที่กล่าวถึง ถือว่าโชคดีมาก แนะนำให้เริ่มศึกษาไว้เลย เพราะเมื่อ Facebook ถูกระงับขึ้นมา คุณจะไม่สามารถไปขอร้องให้ Facebook เปิดให้ใช้งานอีกครั้งได้แน่นอน บทความนี้เราเลยจะมาแชร์ 8 สิ่งที่อาจเป็นเหตุผลให้ Facebook ถูกปิดการใช้งาน ซึ่งมือใหม่ที่ยังสงสัยว่า ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง แนะนำให้ลองศึกษา 8 ข้อนี้ก่อน เพราะหากพลาด ไม่ว่าจะเริ่มดีแค่ไหนก็เจ๊งได้
8 สิ่งที่อาจเป็นเหตุผลให้ Facebook ถูกระงับการใช้งาน หรือ ถูกบล็อก
1. มีบัญชีใช้งานมากกว่า 1 บัญชี
Facebook ต้องการให้ 1 คนมี 1 บัญชี การที่เรามีบัญชีใช้งานมากกว่า 1 จะทำให้ Facebook ตรวจเจอว่าเป็น Spam ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะโดนระงับการใช้งาน หรือบล็อกเลยทันที
แต่อีกหลายคนจะเจอการให้ยืนยันตัวตนด้วยเอกสารที่สามารถยืนยันได้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หรือ Passport ซึ่งส่วนใหญ่พอยืนยันตัวตนเดียวกันกับบัญชี 2 บัญชี ก็จะโดนระงับการใช้งานเลยทันที
Facebook รู้ได้อย่างไรว่าเรามีหลายบัญชี?
Facebook ฉลาดกว่าที่เราคิด สิ่งที่ Facebook จะตรวจสอบได้มีทั้ง IP Location อินเตอร์เน็ตที่ใช้ และอีกมากมาย
2. ลงเนื้อหาไม่เหมาะสมในหน้า Facebook ของตนเอง
คำว่าเนื้อหาไม่มีเหมาะสมมีด้วยกันหลายรูปแบบ เช่น เนื้อหาพนัน การพูดในเชิงลบของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ภาพเปลือย พูดยุยงส่อให้เกิดความแตกแยกของผู้คน และอื่นๆ ซึ่งเป็นเนื้อหาในเชิงลบ ตรงนี้หาก Facebook มีการตรวจสอบเจอหรือมีคนรายงานเยอะๆ ก็อาจโดนระงับได้
ซึ่งเดี๋ยวนี้ Facebook มีระบบ AI ที่เข้ามาช่วยตรวจสอบโพสต์ที่ผิดนโยบายการใช้งานได้แม่นยำขึ้น
3. ใช้คำพูดหยาบคาย ส่อเสียด ข่มขู่
หลาย ๆ คนเวลาไปคอมเมนต์แล้วใช้คำพูดหยาบคาย ด่าทอ ส่อเสียด หรือบางกรณีมีการข่มขู่ หากโดนรายงานก็จะเกิดการตรวจสอบซึ่งถ้าพบว่าผิดจริงก็มีสิทธิ์เฟสบุ๊คโดนระงับได้เลย
4. แอบอ้างหรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย
หลายคนเอารูปคนอื่นมาทำเป็นโปรไฟล์ของตนเอง หรือมีการลงภาพหน้าตาเพื่อทำให้คนอื่นเกิดความเสียหาย อันนี้นอกจากจะทำให้เฟสบุ๊คโดนบล็อกแล้ว ยังอาจต้องถึงขั้นมีคดีความกันเลยด้วย ดังนั้นอย่าทำดีกว่ามันไม่คุ้มแน่ๆ ที่จะต้องได้รับโทษทางกฎหมาย
5. กดเข้ากลุ่ม หรือเพิ่มเพื่อนถี่เกินไป
บางคนมันมืออยากมีเพื่อนเยอะๆ ก็กดเพิ่มเพื่อนหาคนอื่นแบบรัวๆ หรือต้องการเข้ากลุ่ม Facebook หลายกลุ่ม ก็กดขอคำเชิญไปติดๆ กัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้ระบบอัตโนมัติของ Facebook เกิดการจับผิด และเสี่ยงต่อการโดนแบน
ไม่ใช่แค่เข้ากลุ่มถี่ หรือเพิ่มเพื่อนถี่ การกดไลค์ถี่ แชร์ถี่ ก็มีโอาสทำให้ เฟสบุ๊คโดนแบน ได้เช่นกัน
6. โพสต์ข้อความหรือคอมเมนต์ข้อความเดิม ๆ บ่อยเกินไป
เข้าใจดีว่าแม่ค้าออนไลน์ต้องใช้การโพสต์หรือคอมเมนต์เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าของตนเอง แต่การใช้คำเดิมๆ ซ้ำกันบ่อยครั้งและทำบ่อยเกินไปก็มีสิทธิ์ที่เฟสโดนบล็อกได้เช่นกัน แนะนำว่าควรเปลี่ยนข้อความ เนื้อหา หรือปรับให้ไม่ซ้ำกับของเดิม และห้ามโพสต์ถี่เกินไปด้วยเช่นกัน
แต่ถ้าให้แนะนำ อย่าใช้วิธีนี้เลย เพราะถึงเราจะเปลี่ยนข้อความ หรือลงไม่ถี่ แต่หากคนอื่นรำคาญแล้วกดรายงาน ก็ส่งผลให้เราโดนแบน และถูกระงับการใช้งานได้เช่นกัน
7. ใช้ภาพโปรไฟล์แบบผิดๆ
หลายคนที่เป็นแม้ค่าออนไลน์มักเอาภาพสินค้า หรือข้อความโปรโมชั่นต่างๆ มาเป็นโปรไฟล์แทนหน้าบุคคล ตรงนี้เองมีสิทธิ์ทำให้โดนระงับการใช้งานชั่วคราวเอาได้ง่ายๆ เหมือนกัน
โปรไฟล์ส่วนตัวควรจะใช้รูปตัวเอง ชื่อจริง นามสกุลจริง เพื่อที่หากวันหนึ่ง Facebook จะมาให้เรายืนยันตัวตน จะได้สามารถยืนยันได้ผ่าน ถ้าต้องการจะขายของหรือทำธุรกิจบน Facebook แนะนำให้ใช้ Facebook Page จะเหมาะกว่า
8. ขายสินค้าติดลิขสิทธิ์ หรือใช้เพลงติดลิขสิทธิ์
หลายคนขายของแบรนด์เนม ซึ่งจริงๆ ถือว่าผิดนโยบายเรื่องลิขสิทธิ์ของ Facebook โดยผู้ที่จะจำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมต้องได้รับใบ Authorized จากทางแบรนด์เท่านั้น
แต่ทำไมบางคนไม่ได้ขายของแบรนด์เนมแต่ก็โดนบล็อก? ลองตรวจสอบวิดีโอให้ดีว่าได้ใช้เพลง หรือ Footage ที่มีลิขสิทธิ์หรือเปล่า
ต้องทำอย่างไรหาก Facebook ถูกระงับการใช้งาน
หากเฟสบุ๊คโดยบล็อก หรือโดนระงับการใช้งาน เราแทบจะไม่สามารถทำอะไรได้เลย หากเรารู้ว่าข้อผิดพลาดของเราไม่ร้ายแรงมาก เช่น เผลอไปกดเข้ากลุ่มรัวๆ ครั้งแรก แบบนี้มีโอกาสที่จะโดนบล็อก หรือโดนระงับชั่วคราวเท่านั้น แต่ถ้าเราไปทำอะไรที่ผิดบ่อยๆ หรือผิดร้ายแรง เช่น ลงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ก็ที่คุณถูกบล็อกอาจจะเป็นแบบถาวรเลยก็ได้
ซึ่งหากโดนบล็อกแล้ว แนะนำให้รอ 5-7 วัน โดยไม่ต้องไปใช้งานอะไร แล้วค่อยลองเข้าไปใช้งานอีกครั้งหลังจากนั้น ถ้าใช้ได้ก็โชคดีไป ถ้ายังใช้ไม่ได้ ก็รอต่อไปอีก หากรอเป็นเดือนแล้วยังใช้ไม่ได้ก็น่าจะเป็นการระงับแบบถาวร