ระบบ POS ร้านค้าปลีก เป็นระบบที่อยู่คู่กับร้านค้าปลีกมานานแสนนาน และน่าจะยังต้องอยู่ต่อไป เพียงแต่ในอนาคตเราคงจะได้เห็นระบบ POS นี้ปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการที่ลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มไปอยู่บนช่องทางออนไลน์ สั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ และยิ่งไปว่านั้น “Touchless Society” ที่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดล่าสุด ที่ผู้คนพยามเลี่ยงการสัมผัสสิ่งต่างๆ เมื่อออกไปข้างนอก
ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์ POS ที่ลูกค้ายังคงต้องสัมผัสอยู่บ้างก็คือ POS Terminal หรือเครื่องที่ใช้รูดบัตรนั่นเอง ที่นี้ถ้า Touchless Society เกิดขึ้น เจ้าเครื่อง POS Terminal จะยังจำเป็นอยู่ไหม อนาคตของ POS จะปรับไปในทิศทางไหน และ NFC (Near Field Communication) จะถูกนำมาใช้มากขึ้นหรือเปล่า
ก่อนไปเข้าเนื้อหาคุณควรจะต้องรู้จักกับระบบ POS และเทคโนโลยี NFC เสียก่อน
ระบบ POS คืออะไร
สำหรับใครยังใหม่กับระบบ POS ขออนุญาตเกริ่นสั้นๆ เพื่อให้เข้าใจในเนื้อหาของบทความนี้ยิ่งขึ้น.. POS ย่อมาจาก Point Of Sale ซึ่งเราจะคุ้นเคยกันตามแคชเชียร์ร้านค้าปลีก หรือร้านอาหาร โดยระบบนี้จะนำหน้าที่ตั้งแต่สแกนบาร์โค้ด คิดเงิน ออกใบเสร็จ เก็บข้อมูลออเดอร์ เก็บข้อมูลรายได้ ไปจนถึงการจัดการสินค้า และสต็อกในระบบ ซึ่งเจ้าเครื่องที่เราใช้รูดบัตรกันเรียกว่า POS Terminal
โดยระบบ POS สำหรับแต่ละธุรกิจจะแต่งต่างกันในส่วนของ Feature ต่างๆ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้เหมาะกับธุรกิจนั้นๆ เช่น POS ของธุริจโรงแรม กับ POS ร้านอาหาร ก็จะถูกออกแบบระบบที่ต่างกัน
NFC (Near Field Communication) คืออะไร
NFC คือเทคโนโลยีส่งข้อมูลในระยะใกล้ ประมาณว่าถ้ามือถือ หรือ Smartwatch ของเรามี e-Wallet ที่รองรับ NFC เราก็สามารถเอามือถือ หรือ Smartwatch ไปจ่อใกล้ๆ เครื่องเก็บเงิน แล้วระบบก็จะทำการตัดเงินทันที โดยที่เราไม่ต้องไปแตะต้องอะไรทั้งนั้น
Cashless Society เข้มข้น เมื่อ Touchless Society กำลังเกิดขึ้น
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Cashless Society ถือเป็นเทรนด์ที่ใครๆ ก็พูดถึง และผู้บริโภคเองก็นิยมใช้กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้บัตรเครดิตแทน หรือจะเป็นการชำระเงินผ่าน Online Banking ต่างๆ แต่ก็มีอีกหลายร้านค้าปลีกที่ยังไม่ถนัดในการรับชำระในรูปแบบนี้ อาจจะด้วยระบบ POS ที่ยังไม่รองรับ
จนมาถึงช่วงโควิด ที่เป็นตัวเร่งให้ Cashless Society เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้กระแสของ “Touchless Society” ได้เกิดขึ้นมา จากการที่ผู้คนพยายามลดการหยิบจับ และสัมผัสสิ่งของนอกบ้านให้น้อยที่สุดเท่าที่จะสามารถเป็นไปได้
ทำให้ตอนนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มไม่ใช้การชำระเงินรูปแบบที่ยังต้องมีการสัมผัสกับพนักงาน เช่น การใช้เงินสดที่อาจได้รับเงินทอนมาจากพนักงาน หรือการใช้บัตรเครดิตที่ต้องส่งให้พนักงานนำไปรูด โดยตอนนี้หลายคนได้หันไปใช้ Smartphone ในการชำระเงินแทน ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่าน Mobile Banking หรือ e-Wallet ต่างๆ ทำให้ ระบบ POS ร้านค้าปลีก เองก็ต้องปรับตามไปด้วยเช่นกัน เพราะเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภค 2021 นี้ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์สั้นๆ
ระบบ POS ร้านค้าปลีก แบบเดิมยังจำเป็นไหม ถ้าสังคมของเราเป็น Touchless
หลายประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโควิดอย่างหนักโดยเฉพาะประเทศในฝั่งยุโรปมีการประกาศล็อกดาวน์อย่างจริงจัง ช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาไม่สามารถจัดงานเทศกาลคริสต์มาสอย่างคึกคักเหมือนปีก่อนๆ .. ไม่มีภาพของผู้คนหนาแน่นในคลับ หรือยืนต่อรอคิวที่ร้านอาหารให้เห็นอย่างเคย เพราะผู้คนหันมาสั่งซื้ออาหารและสินค้าแบบออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ แทน แค่จ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์แล้วก็อยู่บ้านรอรับสินค้าเพียงอย่างเดียว ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ระบบ POS ร้านค้าปลีก รูปแบบเดิม ที่ผู้บริโภคยังต้องมีการสัมผัสสิ่งต่างๆ ยังจำเป็นไหม ในเมื่อ สิ่งเหล่านี้อาจกลายเป็นสิ่งที่ลูกค้าพยายามหลีกเลี่ยงมากขึ้นในอนาคต
สถิติที่สะท้อนการใช้งาน e-Payment ที่สูงขึ้น
สำหรับในประเทศไทยเอง ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย แสดงให้เห็นว่า COVID-19 เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิด Contactless Payment อย่างรวดเร็ว ใจำนวนที่มากขึ้น โดยข้อมูลของเดือนพฤษภาคม 2563 ที่การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในไทยเริ่มเบาลง จำนวนการชำระเงิน และโอนเงินผ่าน Mobile Banking โตขึ้นถึง 19.4% ในขณะที่การใช้งาน e-Money ก็เติบโตขึ้นถึง 14.7% เลยทีเดียว
เมื่อปีที่แล้วมีรายงานของ MerchantSavvy ออกมาว่าจะมีผู้คนทั่วโลกมากถึง 1.31 พันล้านรายที่จ่ายเงินออนไลน์ผ่านบริการใดบริการหนึ่งบนมือถือ ซึ่งข้อมูลล่าสุดเมื่อช่วงไตรมาสปีที่สามของปี 2019 ช่องทางจ่ายเงินออนไลน์ของโลกที่เป็นที่นิยมมากที่สุดก็คือ Alipay ซึ่งมีผู้ใช้อยู่ที่ประมาณ 1.2 พันล้านราย รองลงมาคือ WeChat ซึ่งมีผู้ใช้ราว 1.151 พันล้านราย และอันดับที่สามก็คือ Apple Pay 441 ล้านราย
ในปี 2019 มีจำนวนเงินที่แพร่สะพัดในตลาดของการจ่ายเงินผ่านมือถือทั่วโลกอยู่ที่ 1,146 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นถึง 3,081 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 ซึ่งคำนวณแล้วเพิ่มขึ้นมากถึง 23.2% ด้วยตัวเลขที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องบวกกับสถานการณ์ของโควิดที่ไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลงได้ในเร็ววัน ทำให้อดคิดไม่ได้เลยว่าในอนาคต โปรแกรม POS ร้านค้าปลีกแบบเดิมๆ อาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
ระบบ POS ต้องตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป
โปรแกรม POS ยังคงจำเป็นต้องมีเพื่ออำนวยความสะดวกในการบริหาร และจัดการข้อมูลต่างๆ เพียงแต่ว่าระบบเก่าๆ ที่ไม่ได้ถูกพัฒนาตามเทคโนโลยี และพฤติกรรมของลูกค้าในสมัยนี้ก็คงจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
และสุดท้ายทางร้านค้าปลีก ร้านอาหาร หรือโรงแรม เองก็คงจะต้องเลือกลงทุนใน POS Solution ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า และพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการ Integrate กับระบบต่างๆ เช่น สำหรับร้านอาหาร ก็ควรต้องหา POS ที่รองรับการ Integrate เข้ากับแอปพลิเคชันส่งอาหาร เพื่อที่จะได้รวมข้อมูลเข้าที่เดียวกันได้เลย รวมถึงควรมีระบบ API ที่สามารถเชื่อมเข้ากับแพลทฟอร์ม eCommerce หรือระบบ Third Party ต่างๆ ได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ หาก Touchless Society เกิดขึ้นมาจริงๆ คาดว่าเราน่าจะได้เห็นการใช้ระบบ NFC ในชีวิตประจำวันมากขึ้น รวมถึงการชำระเงินด้วยเทคโนโลยี NFC.. ระบบ NFC จะทำให้มือถือของเราทำหน้าที่เหมือนบัตรเครดิต โดยเราต้องใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นที่รองรับ NFC เช่น Google Pay และ Apple Pay เป็นต้น ทั้งนี้ ตัว POS Terminal เองก็ต้องรองรับการชำระเงินรูปแบบนี้ด้วย
หากใครที่กำลังมองหาระบบ POS หรือ ธุรกิจใครที่ใช้ระบบ POS แบบเก่าที่ยังไม่รองรับเทคโนโลยีเหล่านี้ อยากให้ลองจับตาเทรนด์ Touchless Society นี้ให้ดี เพราะหากเกิดขึ้น ตลาดระบบ POS เองก็คงจะมีการพัฒนาระบบต่างๆ เพื่อให้รองรับกับพฤติกรรมลูกค้าในอนาคตมากขึ้น ใส่เทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มขึ้น .. อย่างไรก็ตาม ก่อนซื้อก็ต้องรู้เป้าหมายของธุรกิจตัวเองก่อน เพราะหากเทคโนโลยีล้ำ แต่ไม่ได้ใช้จริง ลงทุนไปอาจไม่มีประโยชน์
Source: MerchantSavvy, Entrepreneur, thehindubusinessline