การทําธุรกิจส่วนตัว ให้ประสบความสําเร็จ ไม่ใช่เรื่องยากเกินเอื้อม แต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน การ ลงทุนทำธุรกิจ มีหลายเรื่องที่ต้องศึกษา และระวังเอาไว้ให้มากนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการ ลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว ลงทุนทำธุรกิจแฟรนไชส์ ธุรกิจขนาดเล็ก หรือจะธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนน้อยก็ตาม ไม่ใช่คิดอยากมีธุรกิจเป็นของตนเองก็เดินหน้าทำโดยขาดการวางแผนเพราะอาจทำให้คุณต้องล้มลงไม่เป็นท่าเอาง่ายๆ ซึ่งฟังดูอาจจะตลกว่าจะเกิดขึ้นได้จริงๆ เหรอ แต่จากที่ผ่านมา มีหลายธุรกิจมากมายที่ไม่ได้คิดให้ดีก่อนเริ่มเปิดกิจการ ส่งผลให้ต้องปิดตัวไปในที่สุด
ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่จะลงทุนน้อย กำไรสูง โดยเฉพาะวัยรุ่นที่อยากลองเริ่มทำธุรกิจแรก อยากให้ศึกษา และคิดให้รอบด้านก่อนเริ่มลงทุน บทความนี้จึงอยากรวบรวม 7 สิ่งที่ต้องระวังก่อนการลงทุนทำธุรกิจมาฝากกัน จะเป็นอย่างไรไปติดตามกันครับ
7 สิ่งที่ช่วยให้การ ลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว ประสบความสำเร็จ
1. ความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป
เมื่อเราคิดอยากทำธุรกิจอย่าเพิ่งลงมือทำหุนหันพลันแล่นอย่างที่บอกเอาไว้ตั้งแต่ต้นครับ ให้จดสิ่งที่อยากทำ วางแผนการตลาด มองหาสินค้า ไว้ก่อน จากนั้นศึกษาความต้องการของตลาดว่ามีอะไรเด่น อะไรโดนบ้าง อาจเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น วัยกลางคน ผู้สูงวัยว่ามีความต้องการอะไร ทำให้เราทราบถึงสิ่งเหล่านั้น สร้างธุรกิจออกมาตรงใจกลุ่มเป้าหมาย
ลูกค้า และตลาดคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หลายธุรกิจเกิดขึ้นมาจากความต้องการของตัวเจ้าของ โดยไม่ได้นึกเลยว่าตลาดมีความต้องการหรือไม่ อีกทั้งในยุคนี้ที่ความต้องการของตลาด และพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไปเร็วมาก จึงต้องยิ่งศึกษาให้ดี
2. รักธุรกิจที่ทำมากแค่ไหน
การทำธุรกิจอะไรก็ตามถ้าเป็นสิ่งที่รัก และมี Passion มักทำออกมาได้ดีเสมอครับ ตั้งแต่การเริ่มต้นหาข้อมูล ศึกษา วางแผน แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่จะต้องเจอระหว่างทาง ซึ่งการเริ่มต้นธุรกิจที่เรารักจะเกิดความต้องการเอาชนะไม่ว่าหนทางเจออุปสรรคใดๆ ก็ตาม กลับกันหากเริ่มต้นธุรกิจตามคนอื่น เช่น เห็นเพื่อขายสินค้าแฟชั่น เราก็ขายบ้าง เมื่อเจออุปสรรคก็ขอยอมแพ้ไปง่ายๆ
Related Posts
หลายคนเริ่มธุรกิจโดยการตามคนอื่นแบบไม่ปรับ เปลี่ยน หรือพัฒนาอะไรเลย แบบนี้มีโอกาสที่จะไปได้ไม่ไกล หรือไม่สามารถอยู่ในตลาดได้นาน เพราะเราจะไม่มีไอเดีย หรือ Passion ในการพัฒนาต่อยอดเลย
3. ค่าใช้จ่ายในการ ลงทุนทำธุรกิจ
เรื่องนี้ยังไงก็ต้องพูด ถึงแม้จะเป็น ธุรกิจเล็กๆ ลงทุนน้อย ก็ตาม เมื่อรู้แล้วว่าจะทำธุรกิจอะไร อย่าเพิ่งลงมือทำทันทีนะครับ มาคำนวณต้นทุนด้านต่างๆ ให้ดีก่อน ไม่ว่าจะ วัตถุดิบ การตลาด การจ้างโรงงานผลิต บรรจุภัณฑ์ พนักงาน ค่าจ้างบริษัทรับทำบัญชี ฯลฯ เมื่อรู้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะทำให้เตรียมงบได้เหมาะสม รู้ว่าควรขายสินค้าราคาเท่าไรให้ได้กำไร รวมถึงการกำหนดกลยุทธ์การตลาด การวัดผลลัพธ์ และรู้จุดคืนทุนของธุรกิจ
ยิ่งไปกว่านั้น ต้องดูว่าเรามีเงินสดเท่าไหร่ มี Cash Flow เท่าไหร่ หากธุรกิจไม่เป็นไปตามแผน และไม่มี Cash Flow เข้ามา เราจะยังมีเงินสดในมือเพียงพอที่จะดำเนินการธุรกิจไปได้ต่ออีกกี่เดือน หรือกี่ปี ถ้าคำตอบคือ 1 เดือนนี่น่ากลัวนะครับ
หากใครทำสตาร์ทอัพคงจะเริ่มรู้แล้วว่า ทำไมสตาร์ทอัพต้องระดมทุน กันด้วย ก็เพราะเค้าต้องการเงินเพื่อไป Burn ในธุรกิจ เนื่องจากโดยปกติส่วนใหญ่สตาร์ทอัพจะยังไม่ค่อยสามารถทำกำไรได้ในช่วงแรกอยู่แล้ว
สำหรับใครที่จะลงทุนเปิดออฟฟิศ แนะนำให้ลองศึกษา การจัดออฟฟิศสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
4. อย่าเพิ่งทิ้งงานประจำ
วัยเริ่มทำงาน หรือวัยรุ่นหลายคนอยากเริ่ม ลงทุนธุรกิจเล็กๆ หลายคนพอคิดจะทำธุรกิจก็ลาออกจากงานประจำทันที ขอแนะนำให้ทำธุรกิจพร้อมงานประจำไปก่อน แล้วลองแบ่งเวลามาเริ่มต้นธุรกิจ เพื่อยังคงได้รับเงินเดือนมาใช้จ่ายอยู่ก่อน ค่อยๆ ปรับตัวเองมาลงมือทำธุรกิจเต็มตัวให้การเงินเกิดสภาพคล่องที่สุด เพราะบางทีธุรกิจใหม่กว่าจะมั่นคงก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน
5. ความรู้สึกยอมแพ้ ท้อแท้
เมื่อคุณมีโอกาสมาลงมือทำธุรกิจแล้ว อาจเกิดความรู้สึกยอมแพ้ ท้อแท้ได้ด้วยอุปสรรคหรือปัญหาต่างๆ เพราะเมื่อเริ่มทำธุรกิจแล้ว ยังไงก็จะต้องเจอปัญหา ให้ลองเปลี่ยนความคิดครับว่าสิ่งเหล่านั้นเข้ามาเพื่อทดสอบคุณ นำมาเรียนรู้แล้วแก้ปัญหาให้ถึงที่สุดซะ ทุกปัญหามันมีทางออกอยู่แล้ว อยู่ที่เราจะรู้จักคิดแก้ไขได้มากน้อยแค่ไหน หากรู้ว่าเราไม่มีความสามารถพอ ให้รีบหาคนที่มีความรู้ และเข้าไปพูดคุย ขอคำแนะนำให้เร็วที่สุด จะไปถาม Pantip หรือจะเข้า LinkedIn แล้วไป Deirect Message คุยกันเลยก็ได้ ถึงจุดนี้ต้องกล้าหาความรู้ครับ
ถ้าไม่รู้จะถามใคร ลองทัก Line ของ HardcoreCEO มาก็ได้ เผื่อทีมงานเราช่วยแนะนำได้ (Line OA @unx4775o)
6. คิดแผนสำรองไว้ด้วย
การลงทุนทำธุรกิจย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้น คุณจึงควรมีการคิดแผนสำรองเอาไว้หลายๆ แผนยิ่งดีครับ เพื่อช่วยรองรับเหตุการณ์ในอนาคตที่อาจเปลี่ยนแปลง ไม่เป็นไปตามที่หวัง ช่วยลดความเสียหายลง ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้
อย่างน้อยคือลองคิด Worst Case Scenario หรือสถานการณ์ที่แย่ที่สุดดู ลองดูว่าคุณจะรับได้หรือไม่ และหากเกิดขึ้นแล้ว คุณจะแก้ปัญหานั้นได้หรือไม่ จะต้องหาทรัพยกรณ์อะไรเพื่อแก้ปัญหานั้น
7. กระตือรือร้นไว้ อย่าหยุดนิ่ง
หากต้องการให้ธุรกิจที่ลงทุนไปมีความยั่งยืน และเติบโต เจ้าของธุรกิจควรมีแนวคิดอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะการหยุดอยู่กับที่อาจทำให้ลูกค้าแปรเปลี่ยนไปหาสินค้าใหม่ๆ ได้ง่าย จึงควรกระตือรือร้นพัฒนาตนเอง และสินค้าอยู่เสมอครับ
ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะครับสำหรับคนอยากเริ่มต้น ลงทุนทำธุรกิจของตนเอง น่าจะเป็นประโยชน์อยู่บ้าง อยากให้ทุกกิจการประสบความสำเร็จครับ แต่หากใครที่เริ่มธุรกิจแบบมีหุ้นส่วน อย่างลืม เคลีย 3 เรื่องนี่กับหุ้นส่วนก่อนเริ่มธุรกิจ นะครับ
Image by StartupStockPhotos from Pixabay
Steve Buissinne from Pixabay